KKP ปี 67 ตั้งเป้าโต 3% เน้นคุมคุณภาพลูกค้ารายใหญ่ เร่งบรรเทาต้นทุนสินเชื่อแพง

นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร กล่าวถึงปี 2567 ตั้งเป้าอัตราการเติบโตสินเชื่อรวมไว้ที่ร้อยละ 3 ภายใต้การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการเน้นคุณภาพกลุ่มลูกค้ารายใหญ่เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน ทั้งนี้ แผนดำเนินธุรกิจสำหรับปี 2567 ตั้งใจที่จะมุ่งพัฒนาต่อยอด 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์, ธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งและบริหารการลงทุนลูกค้าบุคคล, และธุรกิจวาณิชธนกิจ เพื่อสร้างการเติบโตที่เข้มแข็งจากหลายช่องทาง และมีความยืดหยุ่นรองรับพัฒนาการของระบบเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเข้าถึงข้อมูล เทคโนโลยี และกฎระเบียบ 

ทางด้านแผนงานแพลตฟอร์มบริการดิจิทัลของกลุ่มธุรกิจฯ อย่าง Digital Edge และ Dime ที่มียอดใช้งานแตะ 7 แสนดาวน์โหลดมีส่วนช่วยในการเข้าถึงและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

สำหรับผลประกอบการของธนาคารในปี 2566 กำไรสุทธิเท่ากับ 5,443 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 28.4 และมีกำไรเบ็ดเสร็จ 5,452 ล้านบาท มองว่าเป็นปีที่ไม่ดีเนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ มีรายได้กระจุกตัวอยู่ที่สินเชื่อเช่า - ซื้อรถยนต์ และ โดดเด่นในเรื่องธุรกิจตลาดทุนที่มีสัดส่วนกำไรสุทธิ จำนวน 1,078 ล้านบาทและเป็นกำไรเบ็ดเสร็จของธุรกิจตลาดทุน จำนวน 1,119 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมกำไรธนาคารในปี 2566 ที่ปรับลดลงมาจากธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่มีต้นทุนแพงขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากปี 2564 ที่ราคารถมือสองได้มีการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยมีการดำเนินการเพื่อรับมือด้วยการเพิ่มความเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อขึ้นรวมไปถึงการควบคุมต้นทุนให้ต่ำขึ้นให้ต้นทุนสินเชื่อเหมาะสมกับราคารถ นอกจากนี้หาช่องทางช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งในช่วงต้นไตรมาส 4 ปี 2566 ที่ผ่านมา พอร์ตสินเชื่อเช่า - ซื้อรถยนต์เริ่มกลับมาดีขึ้น มีตัวชี้วัดมาจากจำนวนที่ทยอยลดลงของลูกค้าที่มีหนี้เสีย (NPLs) นั่นเอง 

#KKP #แผนปี2567 #เกียรตินาคินภัทร